Monday, September 30, 2013

รวมภาพเด็ดประจำร้าน

รวมภาพแต่งบ้านขายดีประจำร้าน godsilaindy

สำหรับคนที่ไม่รู่ว่าจะติดภาพอะไรที่ห้องดี

เรามาดูกันดีกว่าว่าคนส่วนมากชอบแบบไหนกันบ้างครับ

ตรงใจเรากันหรือปล่าว

Best Seller 15 อันดับแรก

สนใจเข้าชมภาพแต่งบ้านเพิ่มได้ที่เว็บร้าน


Sunday, September 29, 2013

จัดแต่งหน้าบ้าน ถูกหลักฮวงจุ้ย

ส่วนที่สำคัญที่สุดของการจัดฮวงจุ้ยที่ดีนั้นได้แก่การหาทิศหลังพิง (Sitting Direction) ของอาคาร เพื่อหาว่าพลังงานธรรมชาติทำปฏิกริยากับมุมต่างๆของอาคารเราอย่างไร โดยการหาทิศหลังพิงนั้นเราต้องสามารถหาหน้าอาคารที่แท้จริงให้ได้เสียก่อน ดังนั้นหากเราไม่สามารถหาหน้าอาคารที่แท้จริงได้เราจะไม่สามารถวิเคราะห์การจัดฮวงจุ้ยในขั้นต่อๆไปได้เลย 



     นอกจากนี้การหาหน้าบ้านที่ถูกต้องนั้นยั้งมีความสำคัญเป็นอย่างมากกับการจัดชัยภูมิให้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยด้วย เนื่องจากว่าทิศหน้าบ้านนั้นโดยมากจะเป็นที่ตั้งของประตูทางเข้าหลัก (Main Entrance) ของอาคารหรือบ้านของเรา ดังนั้นหากเราสามารถจัดชัยภูมิที่ประตูทางเข้าหลักของบ้านได้ โปร่ง โล่ง ไม่มีสิ่งกีดขวางกระแสอากาศที่จะส่งผ่านเข้ามาที่ประตูทางเข้าหลักของเราได้ จะถือว่ามีโอกาสที่เราจะมีบ้านที่ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยได้มาก 



     แล้วเราจะสามารถพิจารณา “หน้าบ้าน” ที่ถูกต้องได้อย่างไร หลักการในการหาทิศหน้าบ้านนั้นประกอบหลักพิจารณาดังนี้ 

     1. มีช่องเปิดที่มีกระแสอากาศตามธรรมชาติหรือ “ลม” พัดผ่านเข้าได้มากที่สุด 
     2. มีช่องเปิดที่มีกระแสอากาศที่ “คน” ลากผ่านเข้ามาได้มากที่สุด 
     3. มีช่องเปิดที่มี “แสงสว่าง” ผ่านเข้ามาได้มากที่สุด 



     หน้าบ้านที่ดีที่สุดควรจะมี “ประตูหน้าบ้าน” ที่เป็น “ช่องเปิด” ที่มีลักษณะดังกล่าวครบถ้วน หากขาดข้อใดข้อหนึ่งไปให้ถือว่ามีโอกาสที่จะเป็นหน้าบ้านที่ไม่ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยได้ เช่น หากประตูหน้าบ้านของเรามีกระแสลมธรรมชาติผ่านเข้ามาตลอด แต่ไม่มีคนเดินผ่านเลย เพราะไปใช้ประตูทางที่จอดรถแทน และทำกันสาดปิดจนแสงแดดไม่สามารถส่องเข้ามาถึงได้ ทำให้โอกาสที่ประตูหน้าบ้านจะไม่ได้เป็นตัวแทนของทิศหน้าบ้านเริ่มมีสูงขึ้นมาก 



     และหากเรามองประตูโรงรถเป็นประตูหลักของบ้านหากอยู่คนละทิศกันจะทำให้การหาปฏิกริยาของพลังงานต่างกับการมองว่าประตูหน้าบ้านเป็นตัวกำหนดทิศหน้าบ้านทันที หากทิศหน้าบ้านไม่ได้อยู่กับประตูบานที่ใหญ่ที่สุดแล้ว แต่กลับไปอยู่กับประตูบานเล็กทางด้านโรงรถแทน จะทำให้โอกาสในการรับกระแสอากาสในปริมาณมากๆพลันน้อยลงไปในทันที และหากเป็นทิศทางที่มีกระแสแห่งโชคลาภเข้ามา ก็จะส่งผลกับความเจริญรุ่งเรืองของสมาชิกภายในบ้านของเราในระยะยาวได้ 



     ดังนั้นเราจึงควรมีการใช้งานประตูหน้าบ้านเป็นหลักเพื่อให้เป็นตัวกำหนดทิศหน้าบ้านอย่างแท้จริง หากประตูหน้าบ้านของเราสามารถรับกระแสลมตามธรรมชาติได้มาก, มีคนเดินผ่านเข้าออกมากที่สุดในบ้าน และ ได้รับแสงสว่างอย่างเหมาะสม จึงจะถือว่ามีโอกาสที่จะเป็นประตูบ้านที่ถูกต้องตามหลักของฮวงจุ้ยได้ โดยลักษณะของทิศหน้าบ้านที่ดูได้ยากที่สุดจะเป็นที่พักอาศัยแบบคอนโดมิเนียม เนื่องจากประตูหน้าของห้องเราจะมีแต่คนผ่านเข้าออก แต่ไม่ได้รับกระแสลมธรรมชาติและไม่มีแสงแดด ดังนั้นหากเป็นคอนโดมิเนียมให้เรามองว่าทิศหน้าบ้านนั้นอยู่ทางประตูออกระเบียงเสมอ 



     หากทุกท่านสามารถหาประหน้าบ้านที่ตรงกับลักษณะดังกล่าวเพื่อหาทิศหน้าบ้านที่แท้จริงได้แล้ว เราจึงจะคำนึงถึงการจัดชัยภูมิของทิศหน้าบ้านของเราให้เหมาะสมต่อไป 


สนใจของแต่งบ้าน ภาพแต่งบ้าน เสริมฮวงจุ้ย

Friday, September 27, 2013

ขั้นคอนการติด สติกเกอร์ฝ้าลงบนกระจก

เทคนิคการติดสติกเกอร์ฝ้าลงบนกระจก

           การติดสติกเกอร์ลงบนกระจกนั้น เป็นการติดที่ต้องใช้ความปราณีต มากกว่าติดลงบนแผ่นป้ายทั่วไป เพราะการติดกระจกเราจำเป็นต้องวัดพื้นที่กระจกก่อนติดตั้ง โดยคิดคำนวณหากว้างxยาว และหา Center ของกระจก
ขั้นตอนแรก เราต้องเตรียมอุปกรณ์ดังนี้
           1.ที่รีดหรือยางปาดสติกเกอร์
           2.น้ำหล่อลื่นเวลาติดสติกเกอร์(น้ำแชมพู,น้ำสบู่,น้ำซันไลท์)
           3.ไดร์เป่าผม,ไฟแช็ก
           4.ไม้บรรทัด
           5.คัตเตอร์
           6.เทปใส
           7.ป็อกกี้(ที่ฉีดน้ำ)
           8.ไฟแช็ค
           หลังจากที่เราเตรียมอุปกรณ์เรียบร้อยแล้วเราต้องทำการหา Center ของกระจก หากเนื้องานที่ติดกระจกต้องอยู่กึ่งกลาง เพื่อความสะดวกรวดเร็ว หากเราอาจจะทำแบบในลักษณะ 1 ต่อ 10 หรือ 1 ต่อ 100 หากเนื้องานนั้นมีความใหญ่มากกว่ากระดาษ A4
           ต่อจากนั้นเราก็ต้องทำการลอกแผ่นกระดาษที่ติดด้านหลังสติกเกอร์ โดยในการลอกนั้น ขอแนะนำว่าให้ลอกเฉพาะ 1 ใน 3 ของตัวอักษรเท่านั้น เพื่อที่จะได้เห็นฐานของสติกเกอร์ ที่จะเป็น Guides line ของเส้นบรรทัด หากตัวเนื้องานตัวอักษรมีความรายละเอียดมาก เราควรใช้ Marking Tape หรือ เทปใส แปะไปที่ตัวอักษรก่อนลอกสติกเกอร์
           การติดสติกเกอร์ตัวอักษรติดกระจกนั้น หากช่างติดสติกเกอร์มีความชำนาญ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องฉีดน้ำ เพราะการฉีดน้ำในบางสถานการณ์ จะทำให้การติดมีความยากยิ่งขึ้น เช่น ในสภาวะที่อากาศชื้น เราควรหลีกเลี่ยงการฉีดน้ำ
นอกจากตัวอักษรนั้นมีขนาดใหญ่ หรือ โลโก้ที่เป็นพื้นทึบขนาดใหญ่เท่านั้น ที่เราจำเป็นต้องฉีดน้ำ


           สำหรับการติดแผ่นอิงค์เจทนั้น จะไม่เหมือนการติดตัวอักษร เพราะอิงค์เจทนั้นเราจะต้องใช้น้ำในการไล่ฟองอากาศการติดนั้นเราต้องมีความ ระมัดระวังอย่างยิ่งในเรื่องความสะอาด เพราะหากมีเม็ดฝุ่นติดอยู่ด้านในกาวสติกเกอร์ เราจะทำการแก้ไขได้ยาก

สนใจของแต่งบ้าน สติ๊กเกอร์ฝ้าติดกระจก ที่เว็บร้าน

เทคนิคการติดสติกเกอร์ลงบนกระจก

เทคนิคการติดสติกเกอร์ลงบนกระจก
           การติดสติกเกอร์ลงบนกระจกนั้น เป็นการติดที่ต้องใช้ความปราณีต มากกว่าติดลงบนแผ่นป้ายทั่วไป เพราะการติดกระจกเราจำเป็นต้องวัดพื้นที่กระจกก่อนติดตั้ง โดยคิดคำนวณหากว้างxยาว และหา Center ของกระจก
ขั้นตอนแรก เราต้องเตรียมอุปกรณ์ดังนี้
           1.ที่รีดหรือยางปาดสติกเกอร์
           2.น้ำหล่อลื่นเวลาติดสติกเกอร์(น้ำแชมพู,น้ำสบู่,น้ำซันไลท์)
           3.ไดร์เป่าผม,ไฟแช็ก
           4.ไม้บรรทัด
           5.คัตเตอร์
           6.เทปใส
           7.ป็อกกี้(ที่ฉีดน้ำ)
           8.ไฟแช็ค
           หลังจากที่เราเตรียมอุปกรณ์เรียบร้อยแล้วเราต้องทำการหา Center ของกระจก หากเนื้องานที่ติดกระจกต้องอยู่กึ่งกลาง เพื่อความสะดวกรวดเร็ว หากเราอาจจะทำแบบในลักษณะ 1 ต่อ 10 หรือ 1 ต่อ 100 หากเนื้องานนั้นมีความใหญ่มากกว่ากระดาษ A4
           ต่อจากนั้นเราก็ต้องทำการลอกแผ่นกระดาษที่ติดด้านหลังสติกเกอร์ โดยในการลอกนั้น ขอแนะนำว่าให้ลอกเฉพาะ 1 ใน 3 ของตัวอักษรเท่านั้น เพื่อที่จะได้เห็นฐานของสติกเกอร์ ที่จะเป็น Guides line ของเส้นบรรทัด หากตัวเนื้องานตัวอักษรมีความรายละเอียดมาก เราควรใช้ Marking Tape หรือ เทปใส แปะไปที่ตัวอักษรก่อนลอกสติกเกอร์
           การติดสติกเกอร์ตัวอักษรติดกระจกนั้น หากช่างติดสติกเกอร์มีความชำนาญ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องฉีดน้ำ เพราะการฉีดน้ำในบางสถานการณ์ จะทำให้การติดมีความยากยิ่งขึ้น เช่น ในสภาวะที่อากาศชื้น เราควรหลีกเลี่ยงการฉีดน้ำ
นอกจากตัวอักษรนั้นมีขนาดใหญ่ หรือ โลโก้ที่เป็นพื้นทึบขนาดใหญ่เท่านั้น ที่เราจำเป็นต้องฉีดน้ำ


           สำหรับการติดแผ่นอิงค์เจทนั้น จะไม่เหมือนการติดตัวอักษร เพราะอิงค์เจทนั้นเราจะต้องใช้น้ำในการไล่ฟองอากาศการติดนั้นเราต้องมีความ ระมัดระวังอย่างยิ่งในเรื่องความสะอาด เพราะหากมีเม็ดฝุ่นติดอยู่ด้านในกาวสติกเกอร์ เราจะทำการแก้ไขได้ยาก

สนใจของแต่งบ้าน สติ๊กเกอร์ฝ้าติดกระจก ที่เว็บร้าน

Thursday, September 26, 2013

เทคนิคการเลือกวอลเปเปอร์ติดผนังง่ายๆ

เทคนิคการเลือกติดวอลเปเปอร์
ในปัจจุบันการแต่ง แต้มสีสัน ผนังสวยด้วย...วอลเปเปอร์ แต่การจะติดวอลเปเปอร์ให้เหมาะสมสวยงามก็จำเป็น ที่จะต้องรู้ เคล็ดลับทั้ง การเลือกสีและลวดลาย รวมทั้งการติดตั้ง วอลเปเปอร์ เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เกร็ดความรู้สำหรับการเลือกลวดลายของวอลเปเปอร์ให้เหมาะกับห้องแต่ละห้อง นั้น หากเลือกสีเข้มจะทำให้ห้องดูแคบกว่าสีอ่อน
หากเป็นวอลเปเปอร์ ที่มีลวดลายชัดเจน ขนาดของลายควรจะมีความเหมาะสมกับขนาดของห้อง อีกทั้งทิศทางของลายก็จะมีผลเช่นกัน หากเป็นลายเส้นตรงหรือแถบจะออกแบบให้เป็นลายทางตั้งเพราะต่อลายง่าย ลาย จะขนานไปกับรอยต่อของแผ่น โดยเฉพาะถ้าห้องมีเพดานต่ำ การใช้ลวดลายทางตั้งที่เด่นชัดจะทำให้เพดานของห้องดูสูงขึ้น แต่ถ้าห้องมีเพดานสูงมากก็อาจจะใช้แถบคาดที่ระดับสูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร หรือด้านบนสุดของผนังอีกครั้ง
เวลาเลือกลายวอลเปเปอร์จะ ต้องคำนึงถึงขนาดของห้องเป็นหลัก หากเป็นห้องเล็ก ๆ ก็ไม่ควรเลือกลายใหญ่เกินไป เพราะจะดูตาลายและทำ ให้รู้สึกอึดอัด หากห้องใหญ่สามารถ เลือกลายใหญ่หรือลายเล็กก็ได้ แต่หากห้องคุณมีแสงสว่างมากหรือแสงส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ควรหลีกเลี่ยงวอลเปเปอร์ที่มีสีสันลวดลายเรียบหรือสีอ่อนมาก เพราะเมื่อมองดูเผิน ๆ แล้วจะเหมือนผนังทาสี และจะทำให้เห็นรอยต่อของวอลเปเปอร์ได้ชัดเจนอีกด้วย
ส่วนห้องเด็กเหมาะที่จะติด วอลเปเปอร์ลายการ์ตูนน่ารักสีสดใส แต่ควรจะเลือกชนิดที่เคลือบผิวด้วยพี.วี.ซี. เพราะจะทำความสะอาดได้ง่ายจากร่องรอยการขีดเขียนของเจ้าตัวน้อยการติดวอลเป เปอร์ ช่างจะทากาวด้านหลังที่เป็นกระดาษ โดยใช้ลูกกลิ้งทาให้ทั่วทั้งแผ่นแล้วติดบนผนังและใช้ลูกกลิ้งกลิ้งทับให้ เรียบสนิทกับผนัง
ส่วนรอยต่อจะซ้อนทับกัน เล็กน้อยแล้วใช้ใบมีดกรีดออกให้รอยต่อชนกัน แนบสนิท ส่วนเทคนิคสิ่งที่ควรรู้หากผนังห้องเป็นผนังใหม่ที่ยัง ไม่ได้ทาสีควรทาสีขาวรองพื้นปูนเสียก่อน เพราะบางครั้งสารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นด่างจากเนื้อปูนจะซึมและระเหย ออกมาทำให้สีของวอลเปเปอร์ด่างเหลืองและซีดได้ เพราะ วอลเปเปอร์มีวัสดุด้านหลังเป็นกระดาษจึงจำเป็นต้องระมัดระวังเรื่อง ความชื้น นอกจากนี้หากบริเวณไหนมีน้ำรั่วซึมเข้ามาควรจะแก้ไขก่อนที่จะติดวอลเปเปอร์ ไม่เช่นนั้นแล้ววอลเปเปอร์สวยจะสวยอยู่ได้ไม่นาน เพราะ จะมีเชื้อราขึ้นมาทำลายเสียหมด น้ำยังทำให้กระดาษอืดพองตัวและหลุดล่อนได้อีกด้วย
แต่ถ้าเป็นผนังห้องเก่าที่ จะตกแต่งหรือเปลี่ยนวอลเปเปอร์ใหม่ก็จะต้องลอกวอลเปเปอร์ของเก่าออกก่อน เมื่อหมดเกลี้ยงแล้วก็ทำความสะอาดผิวผนังให้ดีเสียก่อน เพราะจะทำให้การติดวอลเปเปอร์ใหม่เรียบสวย เนื่องจากในการติดตั้งบางครั้ง ช่างจะต้องใช้เครื่องพ่นไอน้ำมาทำให้กระดาษและกาวเดิมยุ่ยจนแน่ใจว่าลอกออก หมดแล้วจริงๆ
ทั้งนี้หากผนังฉาบปูนไม่ เรียบร้อยและหวังจะใช้วอลเปเปอร์ช่วยปิดทับนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ดี เพราะจะไม่สามารถปิดบังได้ โดยเฉพาะหากเป็น วอลเปเปอร์ชนิดผิวเรียบธรรมดาแล้วจะยิ่งเห็นร่องรอยความไม่เรียบและความไม่ สวยงามเกิดขึ้นมากกว่า ทางที่ดีควรแก้ปัญหาของผนังให้เรียบ เสียก่อนจึงติดวอลเปเปอร์จะง่ายกว่า หากจะติดวอลเปเปอร์ในห้องน้ำควรเป็นห้องที่แยกส่วนเปียกและส่วนแห้งออกจาก กันอย่างชัดเจนจะช่วยไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องเชื้อราและความชื้น 
วอลเปเปอร์มีอายุ การใช้งาน 8-10 ปี หลังจากนั้นสีจะเริ่มเหลืองซีดทำให้ห้องดูเก่าแต่ก็ยังสามารถใช้งานได้อยู่ แต่อาจจะไม่สวยงาม หากอยากได้ห้องใหม่ก็ไม่ควรที่จะเสียดายที่จะเปลี่ยนวอลเปเปอร์ ให้มีลวดลายสีสันใหม่

สนใจวอลเปเปอร์หรือวอลเปเปอร์สั่งทำได้ที่เว็บร้านเลยครับ

Wednesday, September 25, 2013

ขั้นตอนการติด Wallpaper ที่คุณก็ทำได้ด้วยตัวเอง

ขั้นตอนการติดวอลเปเปอร์ ที่คุณก็ทำได้ด้วยตัวเอง
หากคุณต้องการเปลี่ยนผนังที่ทาสีไปบุกระดาษปิดฝาผนังหรือ Wallpaper นั้น  ต้องดูสภาพผนังของคุณก่อน  หากผนังของมีสีจัดจ้าน ให้ทาสีขาวทับลงไป แล้วค่อยติด Wallpaper ที่ต้องทาสีขาวทับลงไปก็เพื่อไม่ให้สีของผนังไปข่มทำให้ Wallpaper ดูสีเปลี่ยนไปจากที่ตั้งใจ แต่หากท่านจะเปลี่ยนผนังที่บุ Wallpaper เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย เพราะการติด Wallpaper  ส่วนใหญ่จะใช้กาวเป็นตัวปิดประสาน และกาวนี้จะมีความลื่นไม่เกาะเนื้อสี
ขั้นตอนการติด Wallpaper 
1. การเตรียมผนัง หรือ เพดาน (คอนกรีต / ไม้อัดเรียบ / ยิปซั่มบอร์ด)

- ทำความสะอาดผนังที่จะทำการติดตั้งวอลล์เปเปอร์ให้เรียบร้อย
- หากผนังไม่เรียบให้ขัดผนังด้วยหินขัด หรือกระดาษทรายให้เรียบ
- หากผนังเป็นร่อง มีรอยร้าวให้แต่งผนังให้เรียบโดยใช้ยิปซั่ม หรือปูนดำผสมน้ำ และกาวลาเท็กซ์โป้วร่องให้เรียบ
2. วัดความสูง และความกว้างของผนังที่จะทำการติดตั้ง เพื่อเตรียมวอลล์เปเปอร์ที่จะนำมาติด
3. แบ่งผนังให้เหมาะสม และเสียเศษน้อย ใช้ลูกดิ่งจับดิ่งจากฝาผนังลงมาที่พื้น และขีดเส้นตามแนวดิ่ง เพื่อจับแนวเวลาต่อลายให้ตรง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องลายเอียงการจับดิ่งนั้นจะจับจุดใดจุดหนึ่งก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะจับจากหน้าประตูตรงวงกบก่อน
3. นำวอลล์เปเปอร์ที่จะติดมาเทียบลาย และ ตัดให้ได้ขนาดตามความสูงของผนังหรือเพดาน เผื่อด้านหัว-ท้ายไว้ตามสมควรแล้วเขียนด้านหลังของวอลล์เปเปอร์ตามลำดับก่อน - หลัง
4. นำลูกกลิ้งที่มีฟองน้ำชุบแป้งเปียกกลิ้งด้านหลังวอลล์เปเปอร์ให้ทั่ว เว้นขอบริมไว้ด้านละ 1-1.5 นิ้ว แล้วพับวอลล์เปเปอร์ด้านบนและล่างเข้าหากัน เพื่อสะดวกในการนำไปติดตั้งเพราะแป้งเปียกจะแห้งช้า
5. นำวอลล์เปเปอร์ที่ลงแป้งเปียกแล้วมาติดบนผนัง โดยติดริมวอลล์เปเปอร์ด้านใดด้านหนึ่งกับเส้นแนวดิ่งแล้วนำไม้อัดหุ้มด้วย พรมอัดรีดบนวอลล์เปเปอร์จากซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้ายเข้าหากำแพงเพื่อไล่ฟองอากาศ
6. หลังจากติดวอลล์เปเปอร์แผ่นแรกไปแล้ว ให้นำวอลล์เปเปอร์แผ่นที่สองมาชนกับแผ่นแรก โดยจับลายแผ่นแรก และ แผ่นที่สองให้ตรงกัน แล้วไล่ฟองอากาศวอลล์เปเปอร์แผ่นที่สอง หลังจากนั้น ให้เปิดริมวอลล์เปเปอร์ทั้งสองแผ่นแล้วทากาวลาเท็กซ์ลงบนผนัง ระหว่างรอยต่อทั้งสองด้าน ปิดริมวอลล์เปเปอร์ทั้งสองด้านให้สนิทกัน หลังจากนั้นใช้ลูกกลิ้งไม้กลิ้งตามรอยต่อเพื่อให้รอยต่อริมวอลล์เปเปอร์สนิทและแน่นขึ้น
7. หลังจากนั้นให้ติดวอลล์เปเปอร์ตามวิธีการข้างต้นจนเต็มพื้นที่ที่ต้องการ

สนใจวอลเปเปอร์สั่งทำ ดูลายเพิ่มเติมได้ที่เว็บร้าน

Tuesday, September 24, 2013

17ไอเดียการจัดห้องนอน เสริมฮวงจุ้ยด้านความรัก

         เรื่องความรักเป็นเรื่องของคนสองที่รักกัน ถือเป็นสิ่งที่ดี
แต่จะดีแค่ไหนหากเราสามารถนำสิ่งรอบข้างรอบๆ ตัวเรา
าช่วยเสริมให้ความรักที่เราและคู่รักนั้นมีต่อกันให้มันมากขึ้น
กว่าเดิมดังนั้นวันนี้เราจึงนำเคล็ดลับการจัดห้องนอนตาม
หลักฮวงจุ้ยเพื่อเสริมดวงด้านความรักมาฝากกันครับ


1. เตียงนอน ควรใช้เตียงที่ทำจากไม้ เพราะเตียงนอนที่ ทำจากโลหะนั้น เป็นสื่อนำไฟฟ้า ซึ่งมีผลต่อสุขภาพของคุณ และพยายามนำเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น โทรศัพท์มือถือ ออกห่างจากเตียงของคุณ
2. แสงภายในห้อง ไม่ควรจะสว่างจ้าเกินไป (หยาง) หรือสลัวทึมเกินไป (หยิน) และอย่าลืมเรื่องเสียงรบกวนด้วย เพราะจะทำให้คุณ และคู่รักหงุดหงิดได้

3. ถ้าห้องนอนของมีหน้าต่างกระจกใส ที่สามารถชมวิวสวยๆ นอกบ้านได้ ไม่ควรวางเตียงติด หรือใกล้กระจกมากเกินไป แม้ ว่าคุณอยากจะนอนชมวิวภายนอกใจจะขาด เพราะพลังที่ผ่านเข้ามาจากภายนอก แม้จะไม่ทำให้คุณกับเขามีเรื่องมีราวถึงกับต้องเลิกรากัน แต่ก็จะส่งผลให้นอนไม่หลับหรือฝันร้ายอยู่เรื่อยๆ

4. ใต้เตียงนอน ไม่ควรเอาของที่ไม่ใช้แล้วไปเก็บไว้ โดย เฉพาะของที่แตกหักยับเยินห้ามเด็ดขาด แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ไม่มีที่จะไว้ของแล้ว ก็ให้เลือกเก็บแต่ของใหม่ๆ ที่สำคัญต้องจัดให้เป็นระเบียบ ถ้าใต้เตียงรกมากๆ หรือเก็บของหักๆไว้ จะทำให้คุณหรือหวานใจมีสุขภาพไม่แข็งแรง แถมยังมีปากเสียงกันได้บ่อยๆ ด้วย


5. หน้าต่างห้องนอน ควรใช้ม่านบังตามากกว่ามู่ลี่กันแดดที่ดูแข็ง ไม่มีความพลิ้วไหวเหมือนกับผ้า เพราะห้องนี้ต้องการบรรยากาศที่นุ่มนวล ไม่ใช่ความเป็นงานเป็นการมากนัก เชื่อกันว่าถ้าใช้ม่านบังตาติด จะช่วยเสริมโชคเรื่องความรัก


6. หาแจกันดอกไม้มาวางไว้ในห้องนอนสักหนึ่งอัน หรือจะเป็นกระถางต้นไม้ก็ได้ กระถาง ควรเป็นสีขาว ส่วนต้นไม้ให้เป็นสีแดงหรือสีชมพู จะช่วยเพิ่มพลังรักให้แข็งแรงมากขึ้น แต่ควรหลีกเลี่ยงการนำต้นไม้ใหญ่ไว้ในห้องนอน

7. หัวเตียง และผนังด้านหัวเตียง สามารถออกแบบให้สวยงามได้ ถ้าเตียงตั้งตรงกับประตูทางเข้าห้องนอน ให้แขวนคริสตัลไว้ระหว่างเตียงและพื้นที่ส่วนนั้น
8. อย่าหันหัวเตียงไปทางห้องน้ำเป็นอันขาด ดวงความรักที่กำลังรุ่งโรจน์อาจจะจะพุ่งลงเหวได้ง่าย เพราะจะต้องมีแต่เรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันไม่หยุดหย่อน

9. ไม่ควรหันปลายเท้าให้กับประตูห้องนอน เพราะเป็นสัญลักษณ์การนอนของคนตาย ไม่เป็นมงคลอย่างยิ่ง หากปลายเตียงหันไปทางประตูห้องนอนพอดี จะมีเรื่องเดือดร้อนใจในครอบครัว สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง อาจมีคนเจ็บป่วยอยู่เรื่อยๆ ความอบอุ่นในบ้านจะลดน้อยลง ถ้าสุดจะเลี่ยงก็ให้แก้ไขง่ายๆ ด้วยการติดกระจกบานเล็กๆ ไว้ที่ปลายเตียง เพื่อสะท้อนพลังอันเลวร้ายออกไป


10. พื้นห้องนอนควรเป็นสีพื้นเรียบๆ อาจมีลวดลายสบายตาได้บ้าง แต่สีพื้นสีเดียวไปเลยจะดีที่สุด หากปูพรม อย่าเลือกพรมที่มีลวดลายฉวัดเฉวียนน่าเวียนหัว เพราะจะส่งผลให้ความรักของคุณวุ่นวาย


11. อย่าใช้ผ้าห่มสีขาว เพราะหากนำมาคลุมร่าง จะเหมือนกับสัญลักษณ์ของคนตาย ผ้าปูที่นอนสีขาวแม้จะดูสะอาดสะอ้าน แต่ก็ไม่เหมาะกับห้องนอนนัก สีขาวโพลนจะส่งผลให้พลังความรักกระจัดกระจาย เลือกผ้าปูที่นอนที่มีสีจะดีกว่า


12. หาผ้าที่ทอด้วยด้ายสีทอง หรือผ้าที่เป็นสีทองวางไว้บนเตียง เนื้อผ้าที่ส่องประกายแวววาว จะช่วยให้คุณสร้างบทรักบนเตียงได้ละเมียดละไมหวิวไหวยิ่งขึ้น
13. ถ้าช่วงไหนอารมณ์ร้อน อาจจะจากเรื่องงาน เรื่องเพื่อนจนพานโมโหคนรักบ่อยๆ ให้หาชามสวยๆ ใส่ก้อนหินหรือคริสตัลวางไว้ใต้เตียงนอน จะช่วยทำให้อารมณ์เย็นลง


14. อยากให้ความรักของคุณมั่นคง ให้หาหินควอตซ์ สีขาวใส ก้อนใหญ่พอประมาณ มาวางไว้ใต้เตียง


15. อย่าติดหลอดไฟที่ให้แสงส่องเป็นลำลงมาที่เตียงเป็นอันขาด เพราะความรักของคุณจะกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งเหยิง น่าปวดหัว ถ้าเลี่ยงไม่ได้ให้แขวนสร้อยลูกปัดที่ปลายเตียง เพื่อซึมซับพลังงานที่ขัดแย้ง
16. หากคุณกำลังกังวลว่า เขากำลังจะมีกิ๊กหน้าใส ให้เปลี่ยนม่านหน้าประตูห้องนอน เป็นม่านที่ร้อยด้วยลูกปัด เชื่อกันว่าลูกปัดจะช่วยเก็บพลังงานรักให้อยู่เป็นที่เป็นทาง ไม่วอกแวกไปที่อื่น


17. หากเตียงนอนอยู่กึ่งกลางระหว่างประตูสองด้าน เช่น ประตูเข้าห้องและประตูห้องน้ำ ให้ย้ายตำแหน่งของเตียง หรือไม่ก็หาฉากสวยๆ มากั้น เพื่อให้พลังงานความรักนั้นรวมกันเป็นหนึ่ง

เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับเคล็ดลับดีๆในการจัดห้องนอนเสริมพลังรักในวันนี้ หลายๆคู่อ่านแล้วก็อย่าลืมรีบไปปรับเปลี่ยนหรือปรับปรุงเพื่อเสริมสร้างความ แข็งแรงให้กับความรักของสองเรา

สนใจของแต่งบ้าน ไอเดียแปลกใหม่ ได้ที่