การแต่งบ้านที่ไม่ควรทำ 7 อย่าง

7 วิธีการแต่งบ้าน ที่ไม่ควรทำ

เอาการแต่งบ้านที่ไม่ควรทำใสฝาก

มีคำแนะนำเกี่ยวกับการแต่งบ้านด้วยไอเดียดีๆ ที่เป็นประโยชน์มาก็มาก 

แต่เห็นหลายๆ คนก็ยังเพลิดเพลินกับการแต่งบ้านจนเกินลิมิต

ลองมาดูกันดีกว่าว่า  วิธีต้องห้ามที่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างเลยในการแต่งบ้านของคุณคืออะไรบ้าง

 

1. แต่งบ้านเหมือนโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ : ไม่จริงเสมอไปที่ว่า เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นในห้องจะต้องเข้ากัน

ทั้งชุดถึงจะดูดี เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้ห้องของคุณดูน่าเบื่อและไร้สีสัน แต่ยังทำให้ห้องดูทึบและ

อึดอัดอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม การตกแต่งแบบชุดเฟอร์นิเจอร์ยกเซ็ตก็ไม่ได้เลวร้ายแต่ประการใดหาก

คุณเป็นคน ที่ปราณีตในการเลือกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งอื่นๆ ให้กลมกลืนกัน เพราะในทางตรงกัน

ข้าม ถ้าหากคุณไม่พิสมัยเฟอร์นิเจอร์แบบเซ็ต แต่อยากจะลองมิกซ์แอนด์แมทช์ตามไอเดียของคุณแล้ว

คุณต้องมีความมั่นใจในไอเดียของคุณอย่างสุดๆ ว่าจะรังสรรค์ความเก๋และแปลกให้ลงตัวได้ หากไม่เช่น

นั้น วิธีการที่ว่าก็อาจกลายเป็นหายนะในบ้านได้เหมือนกัน

 

2.อยากจัดสวนสวยให้สดใส แต่ใช้ต้นไม้-ดอกไม้ปลอม : ต่อให้คุณยกสวนลอยบาบิโลนมาไว้ใน

บ้าน แต่ถ้าหากมีดอกไม้พลาสติกแปลกปลอมเข้ามาเพียงช่อเดียว สวนสวยของคุณก็จะกลายเป็นสวน

ราคาถูกที่ไร้รสนิยมไปโดยทันที วิธีตกแต่งสวนธรรมชาติด้วยของปลอมจึงไม่ใช่แค่วิธีที่ควร

หลีกเลี่ยง แต่เป็นวิธีต้องห้ามที่ไม่ควรทำด้วยประการทั้งปวง

 

3. ชั้นวางของจุกจิก จัดไม่ดีก็มีแต่รก : หลายๆ บ้านชอบทำชั้นติดผนังสำหรับวางของกระจุกกระจิก

ชิ้นเล็กๆ น่ารัก แต่การจัดชั้นวางของจุกจิกให้ดูพอดีก็สำคัญไม่น้อย ควรมีพื้นที่ผนังสำหรับต่อชั้นติดผนัง

พอสมควร ไม่ยาวเหยียดเต็มผนัง หากคุณอาศัยอยู่ในห้องเล็กพื้นที่ใช้งานจำกัด ก็ไม่ควรจัดวางของ

หลายชิ้นจนดูแน่นรกไปทั้งชั้น ควรเว้นพื้นที่ในการจัดวางชั้นละไม่เกิน 3-5 ชิ้นก็จะช่้วยให้ห้องดูโปร่งตา

โดยที่รายละเอียดยังอยู่ครบ แต่ถ้าหากคุณเป็นลูกช่างเก็บที่สะสมของชิ้นเล็กๆ ไว้เยอะเต็มบ้าน ลอง

หากล่องเก็บเฉพาะ แล้วหมุนเวียนเปลี่ยนกันเอาออกมาวางโชว์ 

ก็ยังช่วยทำให้ชั้นวางของคุณไม่จำเจได้ด้วย

4. หุ้มเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นด้วยพลาสติกใส แหม..ทำไปได้ : การใช้พลาสติกใสคลุมเฟอร์นิเจอร์ที่ทำ

ด้วยผ้าอย่างเช่น โซฟา, เก้าอี้นวม หรือเตียงนอน อาจเป็นวิธีที่คุณแม่บ้านรุ่นเบบี้บูมยุคปี 50's-60's

นิยมใช้เพื่อปกป้องเฟอร์นิเจอร์ให้ทนทานและไม่เลอะเปรอะเปื้อน วิธีนี้อาจดีกับเฟอร์นิเจอร์ก็จริง

แต่การที่ผิวกายของเราต้องเสียดสีกับพลาสติกอาจเป็น

อันตรายต่อผิวหนังและ สุขอนามัยอย่างร้ายกาจ

 

สมัยนี้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ผ้า ที่แสนอัจฉริยะมีขายมากมายตามท้องตลาด

ควรหามาติดบ้านไว้ หรือถ้าคุณรู้ตัวว่าเป็นคนที่รักษาความสะอาดของเฟอร์นิเจอร์บุผ้าไม่ค่อยได้ 

แนะนำว่าอย่าเลือกใช้จะดีกว่า

5.แต่งบ้านเป็นธีมโปรด แบบไม่อิงสิ่งแวดล้อม : หลายๆ คนมีจินตนาการล้นเหลือในการตกแต่งบ้าน

ตามสถานที่โปรดหรือวิมานในฝัน มันคงไม่ผิดอะไรหากคุณจะยกบรรยากาศแบบชายหาดมาตกแต่งบ้าน

ให้สดใสหากคุณอยู่ ริมทะเล หรือจะยกน้ำตกลำธารมาไว้ในบ้านกลางหุบเขาก็คงไม่มีใครไม่เห็นด้วยกับ

คุณอีก นั่นแหละ แต่ข้อพึงระวังของการแต่งบ้านตามธีมนั้นคือความเหมาะสม และความพอใจของ

สมาชิกในบ้านที่เหลือก็จำเป็นไม่น้อย ลองนึกภาพเมื่อคุณตกแต่งห้องเด็กอ่อนในสไตล์บาหลีกลาง

สุขุมวิท...คิดไม่ออก เลยจริงๆ ว่าจะทำให้บ้านของคุณน่าอยู่ขึ้นมาได้อย่างไร

6. หันไปทุกที่ ก็มีแต่หมอน : คิดตามง่ายๆ ว่าถ้าคุณหาหมอนมากองไว้เต็มโซฟาจนถึงขนาดลามมาก

องอยู่ที่พื้น คุณจะนั่ง นอน เอกเขนกเพลิดเพลินกับโซฟาตัวโปรดของคุณได้อย่างไร หมอนอาจเป็น

สัญลักษณ์ของความผ่อนคลายและการพักผ่อนที่แสนสบาย แต่อะไรที่มากเกินไปย่อมไม่ใช่

คำตอบของความสบายทั้งปวงแน่นอน

 

 

7. เลือกวอลล์เปเปอร์ตามใจฉัน ก็เหมือนฝันร้าย : วอลล์เปเปอร์ก็เหมือนหน้าตา ทั้งยังถือว่าเป็น

ส่วนสะท้อนรสนิยมเจ้าของบ้านที่ชัดเจนที่สุดอย่างหนึ่ง การแต่งบ้านด้วยวอลล์เปเปอร์จึงถือเป็นดาบ

สองคมได้เหมือนกัน การเลือกใช้สีและลวดลายควรระมัดระวังและคำนึงถึงความสมดุลกับทุกส่วนในบ้าน

เป็นสำคัญ ถ้าคุณเป็นคนมีจินตนาการทางศิลปะล้นเหลือแต่ยังขาดพื้นฐานด้านองค์ประกอบ ศิลป์

ก็ควรหลีกเลี่ยงวอลล์เปเปอร์แบบมีลวดลายใหญ่ๆ วิธีที่ง่ายแถมยังช่วยให้บ้านดูดีมีคลาสนั้นง่ายนิด

เดียว หาภาพแขวนสวยๆ มาประดับบ้าน และจัดวางอย่างลงตัว

แค่นี้ก็ทำให้ผนังบ้านของคุณน่าสนใจเพียงพอแล้ว